การเกิดภพชาติของมนุษย์

ดังได้กล่าวแล้วว่า การที่จิตจักรวาลแบ่งภาคให้จิตวิญญาณมาสู่รูปธรรมมนุษย์ ซึ่งโลกได้สร้างเครื่องยนต์แห่งกรรมหรือร่างกายมนุษย์เอาไว้ให้จิตวิญญาณแต่ละดวงได้อาศัยเป็นเครื่องมือในการสร้างพลังงานด้านบวก เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของโลกให้เกิดการสั่นสะเทือนด้านบวกตามกฎของจักวาล สู่ความสมดุลของระบบโลกเองในจักรวาลนี้ ด้วยเงื่อนไขบทเรียนในพันธสัญญาที่สร้างไว้ตั่งแต่ต้นนั้น เมื่อจิตวิญญาณมาสู่รูปธรรมของมนุษย์โลกเข้าจริงๆ ปรากฏว่าบานประตูระหว่างมิติถูกปิดสนิท จนมนุษย์ไม่รู้จักที่มาที่ไปของตนเองเลย จึงได้ก่อกรรมด้านลบเป็นพันธกรรมทับซ้อนขึ้นมากมาย พลังงานกรรมที่สร้างขึ้นไม่อาจสูญหายไปไหนได้กลุ่มพลังงานกรรมเหล่านั้นจะไร้พลังงานอำนาจก็ต่อเมื่อมนุษย์ที่เป็นเจ้าของมัน ทำไห้มันแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางแทรกซึมไปทั่วจักรวาลเท่านั้นคุณสมบัติของกรรมนั้นจึงจะหมดไปได้ ทันทีที่สังขารมนุษย์ดับลง จิตวิญญาณที่เคยฝังเร้นอยู่ในกายมนุษย์ สลัดตนเองออกมาแล้วพุ่งผ่านช่องทางตาที่สามเพื่อกลับคืนสู่จักรวาลตัวตนแก่นแท้ของตนดำรงอยู่ เพื่อกลับคืนสู่สภาพของจิตจักวาลแต่เดิมให้ได้ แต่ปรากฏว่าจิตวิญญาณส่วนใหญ่มักทำไม่สำเร็จดังประสงค์ เนื่องจากกลุ่มพลังงานกรรมทั้งด้านลบและด้านบวกที่ตนเองสร้างสระสมไว้ทั้งในภพชาติปัจจุบันที่พึ่งสิ้นสุดลง และภพชาติอดีตที่ยังเหลืออยู่จะเป็นพลังงานที่ยังยึดรั้งจิตวิญญาณเอาไว้ จนไม่สามารถทะลุทะลวงผ่านพลังงานของตนไปได้สะดวกนัก ผู้ที่มีพลังงานกรรมด้านลบมากๆ จึงมักจะเหนี่ยวรั้งไว้ให้คืนสู่มิติโลกสู่การเกิดใหม่กันต่อไป ถ้ามีพลังงานกรรมด้านลบน้อยๆ จิตวิญญาณอาจสามารถพุ่งผ่านไปได้จนสุดขอบจักรวาลโลก แล้วสถิตหรือดำรงอยู่ ณ ที่นั้น บริเวรสุดขอบโลก มนุษย์เรียกกันด้วยนามสมมติว่า เป็นจักรวาลชั้นพรหม ซึ่งมีทั้งหมดสี่ชั้น จิวิญญาณที่มีโอกาสสู่รูปธรรมในชั้นนี้ได้ จะต้องสร้างสมพลังงานด้านบวกมากๆ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมนุษย์ผู้หมั่นสร้างกรรมดีโดยหวังสิ่งตอบแทนสูงสุดคือ อยากนิพพาน คือ บรรลุการรู้แจ้งเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นความหลงของมนุษย์อีกอย่างหนึ่ง ถ้าใครได้ทราบความจริงว่า จักรวาลในชั้นสูงสุดนี้แม้วิญญาณของใครสามารถพุ่งผ่านได้ ก็ยังไม่อาจสู่การหลุดพ้นทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดได้เช่นกัน เพราะถ้าพลังอำนาจของจิตวิญญาณนั้นสิ้นสุดลง ก็จะต้องสู่การเกิดใหม่ต่อไปเพื่อหาหนทางสู่จักรวาลที่แท้จริงได้ นอกจากนั้นการดำรงชีวิตอยู่ของรูปธรรมในชั้นนี้ มีอายุยืนกว่าการเป็นมนุษย์หลายเท่านัก มนุษย์ที่เข้าใจในเรื่องนี้ดีพอ ย่อมจะต้องหาหนทานกระทำกรรมดีที่จะนำจิตวิญญาณของตนไปสู่จักรวาลที่เหนือกว่านั้นแน่นอน นั่นคือเส้นทางที่พระพุทธองค์ทรงดำเนินไปดังที่เราได้ทราบกันดีอยู่แล้ว การเกิดภพชาติของมนุษย์จึงเกิดได้ด้วยพลังงานกรรมที่สร้างสมไว้นั่นเอง มนุษย์ที่ต้องการหลุดพ้น จึงต้องพยายามกำจัดกรรมเก่าเสียให้หมดสิ้น และหยุดการสร้างกรรมใหม่ไห้จงได้วงเวียนกรรมจึงจะมีทางสิ้นสุดลง

ปริญญา ตันสกุล. ความลับเบื้องหลังมิติโลก. กรุงเทพฯ: จิตจักรวาล,2547.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น